วิธีปฏิบัติบูชาต่อพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ
การบูชาพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุมีผลานิสงส์มากมาย อาจทำให้สำเร็จประโยชน์และสมบูรณ์ พูนสุขด้วยลาภผลทั้งในชาตินี้ชาติหน้า
ส่วนผู้ที่ไม่เชื่อ ไม่เคยบูชา ไม่มีความศรัทธาย่อมไม่สามารถจะรู้ได้ ผลานิสงฆ์นี้จะเกิดปรากฏก็เฉพาะผู้ที่มีความเลื่อมใสและการสักการบูชาโดยสุจริต พุทธบารมีธรรมบารมี และสังฆบารมี ย่อมคุ้มคุ้มครองรักษาผู้กราบไว้เคารพบูชทาให้เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสาร สมบัติยิงๆขึ้นไป
พระบรมสารีริกธาตุรู้ มีความศักดิ์สิทธิ์ด้วยพระบารมีของพระพุทธองค์ ที่มีเทพยดาผู้ดูแลรักษา สามารถเสด็จมาได้ตามคำอธิฐาน และอาจเสด็จหนีไปถ้าปฏิบัติตนไม่ถูกต้อมตามทำนองครองธรรม ดังนั้น จึงมีิอิทธิปราฏิหารย์เหนือวัตถุมงคลอื่นใด จึงควรปฏิบัติด้วยความระมัดระวังและสำรวมด้วย กาย วาจา และใจ
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554
วิธีบูชา
วิธีบูชาพระสารีริกธาตุที่เสด็จ ณ วัดปันเสา
พระอาจารย์มหาอาวรณ์ ได้ให้การแนะนำสำหรับผู้ที่ได้รับพระสารีริกธาตุ ที่เสด็จมา ณ สถานที่วัดปันเสาแห่งนี้ถึงวิธีการบูชาในพิธีของท่านให้ได้รับทราบว่า
"เมื่อเข้าได้รับพระบรมสารีริกธาตุไปแล้วจะแนะนำให้นำพระบรมสารีริกธาตุ ไปใส่ไว้ในผอบหรือในมี่สมควร ก่อนที่จะนำไปบรรจุในผอบหรือเจดีย์เล็กๆ ให้นำไปทำความสะอาดด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย แล้วนำไปใส่ผอบแล้วนำเครื่องมงคลนั้นนำไปไว้ในที่สูงหรือหิ้งพระในสถานที่สมควร แล้วให้บูชาด้วยดอกไม้สีขาว (ดอกบัวสีขาว) แล้วให้ทำวัตรไว้พระสวดมนต์ ถวายน้ำบริสุทธิ์ให้ท่านบ่อยๆ"
นี่เป็นวิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาเองที่ได้รับจากวัดปันเสาในขณะที่ พระอาจารย์มาหถาวรณ์รกน้ำพุทธมนต์ให้ เป็นข้อแนะนำจากพระอาจารย์มหาถาวรณ์ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับไปบูชานำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง
เป็นพุทธปาฏิหาริย์ที่จักเกิดขึ้นแก่ผู้น้อมถึงด้วยศรัทธา
คำไหว้สวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุวัดปันเสา
พระอาจารย์มหาอาวรณ์ ได้ให้การแนะนำสำหรับผู้ที่ได้รับพระสารีริกธาตุ ที่เสด็จมา ณ สถานที่วัดปันเสาแห่งนี้ถึงวิธีการบูชาในพิธีของท่านให้ได้รับทราบว่า
"เมื่อเข้าได้รับพระบรมสารีริกธาตุไปแล้วจะแนะนำให้นำพระบรมสารีริกธาตุ ไปใส่ไว้ในผอบหรือในมี่สมควร ก่อนที่จะนำไปบรรจุในผอบหรือเจดีย์เล็กๆ ให้นำไปทำความสะอาดด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย แล้วนำไปใส่ผอบแล้วนำเครื่องมงคลนั้นนำไปไว้ในที่สูงหรือหิ้งพระในสถานที่สมควร แล้วให้บูชาด้วยดอกไม้สีขาว (ดอกบัวสีขาว) แล้วให้ทำวัตรไว้พระสวดมนต์ ถวายน้ำบริสุทธิ์ให้ท่านบ่อยๆ"
นี่เป็นวิธีบูชาพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาเองที่ได้รับจากวัดปันเสาในขณะที่ พระอาจารย์มาหถาวรณ์รกน้ำพุทธมนต์ให้ เป็นข้อแนะนำจากพระอาจารย์มหาถาวรณ์ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับไปบูชานำไปปฏิบัติให้ถูกต้อง
เป็นพุทธปาฏิหาริย์ที่จักเกิดขึ้นแก่ผู้น้อมถึงด้วยศรัทธา
คำไหว้สวดบูชาพระบรมสารีริกธาตุวัดปันเสา
(นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ๓ ครั้ง)
อิติปิโส ภะคะวา, นะมามิหัง ตัง ภะคะวันตัง, ปะระมะสารีริกธาตุยา สัทธิง,
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชาจาระณะสัมปันโน, สุคะโต, โลกะวิทู, อนุตตะโร ปุริสะทัมมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง, พุทโธ, ภะคะวาติ.
วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2554
ประวัติพระมหาอาวรณ์
ประวัติพระมหาอาวรณ์ ภูริปญโญ
พระมหาอาวรณ์ ภูริปญโญ นามเดิมชื่อ อาวรณ์ ชัยประสิทธิ์ ตอนที่แม่ท่านท้องได้ ๓ เดือน พ่อท่านทำงานที่เหมืองแร่ที่ดอยหมอก พ่อของท่านทำงานบ่อแร่ บ่อแร่ได้ถล่มลงมาทำให้ พ่อของท่านเสียชีวิตที่ดอยหมอกโดยไม่ได้ศพกลับมาทำบุญที่เกิด
ส่วนแม่เมื่อทราบข่าวก็เสียใจ และตัดสินใจทำแท้ง แอบให้หมอตำแยทำแท้ง ย่าของท่านทราบและไปคุยกับหมอตำแยว่าอย่าได้ทำอีกเลยจะขอเลี้ยงเอง หมอตำแยบอกว่าโอกาสที่เด็กน้อยคนนี้จะครบสามสิบสองคงยาก ย่าบอกว่าถึงจะพิการก็จะเลี้ยงเอง แล้วก็เรียนลูกสะไภ้มาขอร้องไห้รักษาหลานเอาไว้ หากคลอดแล้วจะเลี้ยงเอง
เด็กน้อย ๘ เดือนก็คลอด ในวันที่คลอดออกมาฟ้าฝนได้ตกลงมาสร้างความชุ่มชื่นให้กับแผ่นดิน หลังจากที่คลอดแล้วแม่ก็ได้ตายด้วยอาการตกเลือดอย่างรุนแรง
ย่าจึงตั้งชื่อให้ว่า อาวรณ์ แปลว่า ความอาลัย ความห่วงหา นับตั้งแต่นั้นมาย่าก็ต้มข้าวบดกับกล้วยเลี้ยงมาจนเติบใหญ่ด้วยความลำบาก และเด็กน้อยคนนี้ขี้โรค มีโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิต และอีกหลายๆโรค ด้วยกัน แต่ย่าอุตส่าเลี้ยงด้วยเมตตาตลอดมา
เมื่ออายุครบเข้าโรงเรียนก็ให้ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนประจำอำเภอ ที่เวียงป่าเป้า เด็กน้อยคนนี้เป็นคนที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน ในยามใดที่ปู่ย่า นำปลา หรือสัตว์ใดๆมาขังไว้เพื่อจะทำอาห่ร เด็กน้อยมักจะเป็นคนแอบปล่อยเสมอ และมักจะนำดินมาเล่นปั้นเป็นพระพุทธรูปเป็นประจำ ไม่เคยฆ่าสัตว์มาตั้งแต่สมันเด็กๆ พอถึง ป.๔ ก็ขอปู่กับย่าไปอยู่กับตุ๊อุ้ยที่วัด และได้สวดมนต์ทำวัตรกับตุ๊อุ้ย จนสามารถได้ไม่แพ้สามเณรทั้งหลายเลย
เมื่อจบ ป.๖ ก็ได้เข้าบวชในร่มกาสาวพัตร สามเณรน้อยตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบนักธรรมเอก และได้ไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงปู่ทอง (สมัยนั้นท่านอยู่ที่วัดร่ำเปิงตโทาราม) จนกระทั่งจบความรู้ หลวงปู่ทองได้ส่งเณรน้อยให้ไปเรียนบาลีที่วัดป่างิ้ว โดยมีเจ้าคุณทรัพย์ นรินโทเป็นผู้อบรบสั่งสอน จนกระทั่งได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค เจ้าคุณมหาทรัพย์ ได้เรียนจบปริญญาตรีที่มหาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย จบปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากนั้นได้รับการมอบหมายจากพระสงฆ์ให้มาพัฒนาฟื้นฟูวัดปันเสา ท่านเป็นพระนักเทศน์นักเผยแผ่ และเมตตาธรรมสูงมาก เป็นที่เคารพนับถือของศรัทธาประชาชนโดยทั่วไปและเป็นที่ทรายทั่วไปว่า ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปในสถานที่แห่งใด มักจะมีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จตามท่านเสมอ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหัตธาตุรวมทั้งธาตุ อื่นๆ ที่ตกลงมาจากตัวท่านมักจะมีรูปพรรณสัณฐานที่แตกต่างกันไป หากผู้ใดมีความศรัทธาอย่างแน่วแน่ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเหล่านี้ไประดิษฐานที่บ้าน และสักการบูชาอย่างถูกต้อง ก็จะพบกับเหตุอัศจรรย์ในชีวิตอย่างประหลาด และสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ดีงามเสมอ
ประวัติวัดปันเสา
ประวัติวัดปันเสา
วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
อัศจรรย์พระธาตุเสด็จในองค์เจดีย์
อัศจรรย์พระธาตุเสด็จในองค์เจดีย์โบราณอายุราว 500 กว่าปี ในพิธีอบรมสมโภชและบรรจุพระเจ้าหยกเขียวในวิหารของวัดปันเส่า

พระมหาอาวรณ์ภูริปญฺโญ ผู้ดูแลศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดปันเส่า ถนนบุญเรืองฤทธิ์ ต.สุเทพ อ. เมือง เชียงใหม่ เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 มี.ค. นี้ว่าทางศูนย์ปฏิบัติธรรมฯจัดพิธีสืบชะตาหลวง อบรมสมโภชพระพุทธมหาทานบารมีศรีล้านนาเชียงใหม่ชัยมงคล (พระเจ้าหยกเขียว) เพื่อบรรจุลงในฐานชุกชีบนวิหารของวัดเมื่อวันที่ 15 มี.ค. นี้ ขณะประกอบพิธีโดยพระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพฯ และฯพณฯ ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานได้มีเหตุอัศจรรย์ โดยขณะพระมหาอาวรณ์ ภูริปญฺโญ ขึ้นไปจุดธูปเทียนภายในโพรงเจดีย์ และพบว่าภายในโพรงเจดีย์ปันเส่ามีพระธาตุเสด็จมาประดิษฐานอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้อัญเชิญลงมาให้ศรัทธาประชาชนได้สักการะบูชา พระมหาอาวรณ์ ภูริปญฺโญ เจริญพรว่าเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 14 มี.ค. ได้มีศรัทธาประชาชนเป็นจำนวนมาก ได้ไปร่วมกันสวดมนต์ทำวัตรปฏิบัติธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดปันเส่า ในขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่นั้นได้มีแสงประหลาดส่องประกายระยิบระยับลงมาที่บริเวณองค์เจดีย์วัดปันเส่า จนกระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 15 มี.ค. พระมหาอาวรณ์ ภูริปญฺโญ ผู้ดูแลศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดปันเส่า พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณร และศรัทธาประชาชนนับพันคน ทำพิธีบวงสรวงองค์เจดีย์ปันเส่า ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าแก่มีอายุราว 500 กว่าปี โดยสร้างในสมัยของพญาผายู และบูรณใหม่ในสมัยของพญาเมืองแก้ว ใช้เป็นสถานที่หล่อพระพุทธรูปเก้าตื้อ(ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วัดสวนดอก)และได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น สำหรับวัดปันเส่า แห่งนี้เดิมเป็นวัดร้าง กำลังมีการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ โดยจะใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรม และใช้เป็นสถานที่รองรับพระสงฆ์อาคันตุกะที่เดินทางมาจากทิศทั้งสี่เพื่อมารับการรักษาพยาบาลที่ตึกสงฆ์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยปัจจุบันนี้ มีพระมหาอาวรณ์ ภูริปญฺโญ เป็นประธานสงฆ์ ผู้ดูแลศูนย์ปฏิบัติธรรม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับศูนย์มาลาเรียเขต 2 จังหวัดเชียงใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก: http://www.thainews70.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)